เมื่อวันอังคารที่ 17 กันยายน 2567 ณ คลองสองพี่น้อง ตำบลต้นตาล อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี นางฐิติพร หลาวประเสริฐ รองอธิบดีกรมประมง เป็นประธานเปิดโครงการฟื้นฟูและบริหารจัดการทรัพยากรประมงในแหล่งน้ำสำคัญ “ทุ่งโพธิ์พระยา” ประจำปีงบประมาณ 2567 โครงการนี้มีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนในการจัดการและรักษาทรัพยากรสัตว์น้ำในท้องถิ่นอย่างยั่งยืน การมีส่วนร่วมของชุมชนเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างความยั่งยืน ซึ่งจะทำให้ทรัพยากรประมงได้รับการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในระยะยาว
ทรัพยากรประมงเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจและการดำรงชีวิตของคนในพื้นที่ โดยเฉพาะในเขตพื้นที่แหล่งน้ำสำคัญอย่าง “ทุ่งโพธิ์พระยา” ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของประเทศ โครงการฟื้นฟูและบริหารจัดการทรัพยากรประมงในทุ่งโพธิ์พระยานี้ถูกดำเนินการขึ้นเพื่อฟื้นฟูและเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำในแหล่งน้ำ ซึ่งได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมและการทำการประมงที่อาจไม่ยั่งยืน
นางฐิติพร หลาวประเสริฐ รองอธิบดีกรมประมง กล่าวว่า สถานการณ์การลดลงของทรัพยากรสัตว์น้ำเป็นสิ่งที่น่ากังวล จากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและผลกระทบจากการทำกิจกรรมของมนุษย์ กรมประมงได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการแก้ปัญหาดังกล่าว จึงได้ดำเนินการโครงการฟื้นฟูและบริหารจัดการทรัพยากรประมงในแหล่งน้ำสำคัญอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการรวมเอาความรู้ทางวิทยาศาสตร์และการบริหารจัดการแบบชุมชนมาใช้ร่วมกัน
โครงการนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อสร้างแหล่งอาหารโปรตีนสำหรับชุมชน โดยการเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำในแหล่งน้ำสำคัญของประเทศ ซึ่งรวมถึงแหล่งน้ำที่กรมประมงขอใช้ประโยชน์ในการบำรุงพันธุ์สัตว์น้ำและแหล่งน้ำสำคัญในพื้นที่ลุ่มต่ำ นอกจากการสร้างแหล่งอาหารแล้ว โครงการนี้ยังมุ่งเน้นให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์และบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำในท้องถิ่นของตนเอง โดยใช้วิธีการเพาะพันธุ์ปลาแบบง่าย เช่น การใช้ชุดเพาะฟักไข่ปลาแบบเคลื่อนที่ (Mobile hatchery) ซึ่งทำให้ชุมชนสามารถทำการเพาะฟักลูกปลาและปล่อยกลับลงสู่แหล่งน้ำได้
กิจกรรมนี้มีการตั้งเป้าหมายในการปล่อยลูกปลาจำนวนมหาศาล ประกอบด้วยลูกปลาระยะแรกฟักจำนวน 480 ล้านตัว และพันธุ์ปลาขนาด 1 – 2 เซนติเมตร จำนวน 2.7 ล้านตัว ซึ่งคาดว่าจะสามารถสร้างผลผลิตสัตว์น้ำที่มีมูลค่าถึง 40.56 ล้านบาท และสร้างรายได้เสริมให้กับเกษตรกร ชาวประมง และชุมชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
การที่ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการฟื้นฟูและบริหารจัดการทรัพยากรประมงนั้นไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำ แต่ยังสร้างความยั่งยืนให้กับการใช้ทรัพยากรธรรมชาติในระยะยาว กรมประมงมุ่งเน้นให้ชุมชนมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง ทั้งในเรื่องของการเรียนรู้เทคนิคการเพาะพันธุ์ปลา การจัดการทรัพยากรน้ำ และการป้องกันการทำประมงที่ผิดกฎหมาย
นางฐิติพรกล่าวต่อว่า กรมประมงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตลอดจนเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการในวันนี้จะสามารถนำองค์ความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ในชีวิตจริง และขยายผลให้เกิดการจัดการทรัพยากรประมงในพื้นที่อื่น ๆ ได้เช่นกัน กิจกรรมที่จัดขึ้นในวันนี้นอกจากจะเป็นการให้ความรู้แล้ว ยังเป็นการปลูกฝังจิตสำนึกให้กับผู้คนในชุมชนในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อให้มีความยั่งยืนต่อไป
นอกจากจะเป็นการฟื้นฟูทรัพยากรประมงแล้ว โครงการนี้ยังส่งผลดีต่อระบบนิเวศทั้งหมด โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมบ่อยครั้ง ซึ่งน้ำท่วมเหล่านี้อาจทำให้ผลผลิตการเกษตรเสียหาย แต่หากมีการใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ำอย่างถูกต้อง เช่น การเพิ่มปริมาณสัตว์น้ำในแหล่งน้ำท่วม จะสามารถสร้างแหล่งอาหารและรายได้เสริมให้กับเกษตรกรในพื้นที่ได้เช่นกัน
ในงานนี้ยังมีการจัดนิทรรศการที่เน้นให้ความรู้ด้านการประมงต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงสัตว์น้ำสำคัญของจังหวัดสุพรรณบุรี การแนะนำเครื่องมือประมงที่ถูกต้องตามกฎหมาย และการสาธิตวิธีการเพาะพันธุ์ปลาด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย นอกจากนี้ยังมีการแจกพันธุ์ปลาจำนวนมากเพื่อนำไปปล่อยในแหล่งน้ำธรรมชาติ
โครงการนี้ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการพัฒนาทรัพยากรประมงในประเทศไทย ซึ่งการที่ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการฟื้นฟูและดูแลทรัพยากรประมง จะเป็นการสร้างความยั่งยืนให้กับทั้งทรัพยากรธรรมชาติและเศรษฐกิจชุมชนอย่างต่อเนื่อง
ทิดโป้ย คนเมืองเหน่อ นสพ.ประชาไทนิวส์ออนไลน์
โย ประเด็นรัฐ