เมื่อวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2567 ที่ผ่านมา นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ได้เป็นประธานในพิธีแถลงข่าวการประกาศผลการคัดเลือกศิลปินร่วมสมัยดีเด่น รางวัลศิลปาธร ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ณ ห้องออดิทอเรียม ชั้น 1 หอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน โดยในงานนี้มีนางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นายโกวิท ผกามาศ ผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม คณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกศิลปินร่วมสมัยดีเด่น รางวัลศิลปาธร ประจำปี 2567 ศิลปินร่วมสมัยดีเด่นรางวัลศิลปาธรที่ได้รับรางวัลในปี 2567 และผู้แทนศิลปิน รวมถึงศิลปินที่เคยได้รับรางวัลศิลปาธรก่อนหน้านี้ เข้าร่วมในพิธี
ในโอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมได้กล่าวแสดงความยินดีกับศิลปินที่ได้รับรางวัลศิลปาธรในปีนี้ พร้อมมอบป้ายรางวัลและช่อดอกไม้แสดงความยินดีแก่ศิลปินร่วมสมัยที่ได้รับรางวัลจำนวน 7 สาขา ซึ่งประกอบไปด้วยบุคคลที่มีความโดดเด่นในวงการศิลปะร่วมสมัย ดังนี้
- นายจักกาย ศิริบุตร สาขาทัศนศิลป์
- นายปิตุพงษ์ เชาวกุล สาขาสถาปัตยกรรม
- นายวิสุทธิ์ ขาวเนียม สาขาวรรณศิลป์
- ร้อยเอกสมนึก แสงอรุณ สาขาดนตรี
- นางสาวแววดาว ศิริสุข สาขาศิลปะการแสดง
- นายศรัณย์ เย็นปัญญา สาขาศิลปะการออกแบบ
- นายวิชญ วัฒนศัพท์ สาขาภาพยนตร์และสื่อเคลื่อนไหว
รางวัลศิลปาธร เป็นรางวัลที่กระทรวงวัฒนธรรมจัดขึ้นเพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติศิลปินร่วมสมัยที่มีผลงานโดดเด่น และเป็นที่ยอมรับในวงการศิลปะ โดย “ศิลปาธร” หมายถึง “ผู้ทรงไว้ซึ่งศิลปะ” หรือ “ผู้รักษาไว้ซึ่งศิลปะ” ซึ่งกระทรวงวัฒนธรรมโดยสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย ได้ดำเนินโครงการนี้มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547 โดยมีวัตถุประสงค์หลักคือ การส่งเสริมและสนับสนุนศิลปินร่วมสมัยในช่วงวัยกลางคนที่มีผลงานสร้างสรรค์อันทรงคุณค่าและมีอิทธิพลต่อวงการศิลปะร่วมสมัยทั้งในระดับชาติและนานาชาติ
รางวัลศิลปาธรถือเป็นหนึ่งในรางวัลที่มีเกียรติสูงสุดในวงการศิลปะของประเทศไทย ด้วยความพิเศษที่มุ่งเน้นการยกย่องศิลปินที่มีความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ผลงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผลงานของศิลปินเหล่านี้ไม่เพียงแค่สะท้อนความสามารถทางศิลปะของตนเอง แต่ยังส่งผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมวงกว้างและเปิดโอกาสให้ศิลปินไทยได้มีโอกาสเผยแพร่ผลงานสู่สายตาชาวโลก
รางวัลที่มอบให้แก่ศิลปินศิลปาธรประกอบด้วยเข็มเชิดชูเกียรติและเงินรางวัลจำนวน 100,000 บาท โดยการคัดเลือกศิลปินจะพิจารณาจากผลงานในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา และศิลปินต้องมีผลงานที่เป็นที่ยอมรับในวงการศิลปะทั้งในและต่างประเทศ ผลงานต้องสะท้อนถึงความคิดสร้างสรรค์ ความทุ่มเท และความสามารถในการนำเสนอศิลปะที่มีเอกลักษณ์ของตนเอง
การมอบรางวัลศิลปาธรในช่วงปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547 จนถึงปัจจุบัน ได้มีศิลปินมากมายที่ได้รับการยกย่องเป็นศิลปินศิลปาธร ซึ่งในจำนวนนี้มีทั้งศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงานในแขนงต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นทัศนศิลป์ วรรณศิลป์ ดนตรี ศิลปะการแสดง สถาปัตยกรรม และภาพยนตร์ ตัวอย่างหนึ่งของบุคคลที่ได้รับการยกย่องเป็นศิลปินศิลปาธร คือ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงได้รับการยกย่องในสาขาศิลปะการออกแบบ (แฟชั่นและเครื่องประดับ) นับเป็นหนึ่งในศิลปินที่โดดเด่นที่สุดของประเทศไทย ซึ่งผลงานด้านการออกแบบแฟชั่นของพระองค์ได้รับการยอมรับทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ในช่วงปี พ.ศ. 2547-2566 มีศิลปินมากถึง 108 คนที่ได้รับรางวัลศิลปาธรในสาขาต่าง ๆ ซึ่งแต่ละคนล้วนเป็นศิลปินที่มีผลงานที่มีอิทธิพลในวงการศิลปะร่วมสมัยไทย การมอบรางวัลนี้ถือเป็นการกระตุ้นให้ศิลปินรุ่นกลางสร้างสรรค์ผลงานที่เป็นเอกลักษณ์และสะท้อนถึงความคิดสร้างสรรค์อันล้ำลึก รวมถึงเป็นแรงบันดาลใจให้ศิลปินรุ่นใหม่ได้ก้าวเข้าสู่วงการศิลปะอย่างเต็มตัว
บทบาทของศิลปินร่วมสมัยในสังคม ศิลปินร่วมสมัยถือเป็นบุคคลที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างสรรค์และรักษาวัฒนธรรมทางศิลปะของประเทศ พวกเขาไม่เพียงแค่สร้างผลงานที่งดงาม แต่ยังสะท้อนถึงเรื่องราวและประสบการณ์ของสังคมในยุคปัจจุบัน ผลงานของศิลปินร่วมสมัยมักเป็นสื่อกลางในการแสดงออกถึงความคิดเห็นที่มีต่อประเด็นต่าง ๆ ในสังคม ไม่ว่าจะเป็นปัญหาทางสังคม การเมือง เศรษฐกิจ หรือวัฒนธรรม ผลงานเหล่านี้ส่งผลให้สังคมเกิดการตระหนักรู้และสามารถเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้นของประเทศในระยะยาว
โย ประเด็นรัฐ