นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ได้เปิดเผยผลการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลในช่วงระยะเวลา 90 วันแรก (12 กันยายน – 12 ธันวาคม 2567) ที่ครอบคลุม 6 ด้านสำคัญ โดยผลงานเหล่านี้นับเป็นความสำเร็จที่แสดงถึงการผลักดัน Soft Power ไทยสู่เวทีโลก พร้อมสร้างรายได้ให้แก่ประเทศอย่างเป็นรูปธรรม
พิทักษ์และส่งเสริมสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ กระทรวงวัฒนธรรมมุ่งมั่นสร้างความเข้าใจและส่งเสริมสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ผ่านโครงการสำคัญ อาทิ:กิจกรรมน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณในหลวงรัชกาลที่ 9 จัดพิธี“วันนวมินทรมหาราช” เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2567 เพื่อเทิดพระเกียรติในหลวงรัชกาลที่ 9, อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ “พระเขี้ยวแก้ว” จัดพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากต่างประเทศมาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ ประเทศไทย เพื่อเฉลิมพระเกียรติในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบของในหลวงรัชกาลที่ 10, พัฒนาวัดชายแดนใต้, สนับสนุนกิจกรรมถวายผ้ากฐินและผ้าป่าพัฒนาวัดในจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวม 302 วัด เพื่อถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ส่งเสริมการท่องเที่ยวและแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม การผลักดันการท่องเที่ยวที่เน้น Soft Power และมรดกวัฒนธรรมไทยได้แสดงให้เห็นศักยภาพของประเทศไทยในระดับนานาชาติ โดยผลงานเด่น ได้แก่:โบราณสถานยามราตรี “4 วัด 1 วัง” กิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่พระนครศรีอยุธยา เช่น วัดไชยวัฒนาราม วัดราชบูรณะ วัดมหาธาตุ วัดพระราม และพระราชวังจันทรเกษม ซึ่งมีผู้เข้าร่วมกว่า 194,875 คน, ลอยกระทงวิถีไทย 2567 จัดงานลอยกระทงทั้งในส่วนกลางและจังหวัดต่าง ๆ เช่น เชียงใหม่ สุโขทัย และร้อยเอ็ด รวมถึงการจัดงานใน 8 เมืองน่าเที่ยว เช่น ลำปาง ขอนแก่น และภูเก็ต โดยมีผู้เข้าร่วมงานทั่วประเทศกว่า 6.6 ล้านคน สร้างรายได้รวม 8,299 ล้านบาท
ยกระดับ Soft Power ไทยผ่านวัฒนธรรมสร้างสรรค์ (Creative Culture) กระทรวงวัฒนธรรมได้มุ่งส่งเสริมภูมิปัญญาไทยและนำเสนอมรดกวัฒนธรรมในระดับนานาชาติผ่านโครงการต่าง ๆ เช่น:มหกรรมวัฒนธรรมแห่งชาติ วิถีถิ่น วิถีไทย จัดใน 4 ภูมิภาค โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 380,000 คน สร้างรายได้หมุนเวียน 245 ล้านบาท และสร้างงานให้ศิลปินและเครือข่ายวัฒนธรรมทั่วประเทศ, ยกระดับเทศกาลประเพณีไทยสู่เวทีโลก ผลักดัน 6 เทศกาล เช่น เทศกาลร่มบ่อสร้าง จังหวัดเชียงใหม่ และประเพณีกำฟ้าไทยพวน จังหวัดแพร่ สร้างรายได้หมุนเวียนกว่า 152 ล้านบาท, ต้มยำกุ้งและเคบายา: มรดกวัฒนธรรมโลก ต้มยำกุ้งและเคบายาได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติจากองค์การยูเนสโก โดยมีการจัดงานฉลองใหญ่เพื่อสร้างการรับรู้ในระดับนานาชาติ, สนับสนุนภาพยนตร์และสื่อสร้างสรรค์โครงการ Content Thailand Academy และการผลักดันกฎหมายด้านภาพยนตร์และเกม โดยมีเป้าหมายยกระดับอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของไทย
ส่งเสริมการอ่านและพัฒนาศักยภาพคนไทย เพื่อพัฒนาคุณภาพคนไทยทุกช่วงวัย กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินโครงการสำคัญ ได้แก่: มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 29 มีผู้เข้าร่วมกว่า 1.4 ล้านคน จำหน่ายหนังสือ 2 ล้านเล่มจาก 286 สำนักพิมพ์ ทำเงินสะพัด 438 ล้านบาท, ส่งเสริมศิลปะ Soft Power 1 ครอบครัว 1 ทักษะ จัดอบรมทักษะศิลปะและวัฒนธรรมแก่ครอบครัวและชุมชนในพื้นที่ทั่วประเทศ
การพัฒนาดิจิทัลและความโปร่งใส เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงาน กระทรวงวัฒนธรรมได้เร่งพัฒนาดิจิทัลและระบบข้อมูลเพื่อความโปร่งใส เช่น:ฐานข้อมูลดิจิทัลด้านศิลปวัฒนธรรม พัฒนาระบบบริการข้อมูลศิลปวัฒนธรรมที่ครอบคลุม 120 แหล่งสำคัญ, กฎหมายภาพยนตร์และเกม ผลักดันร่างพระราชบัญญัติภาพยนตร์และเกมเพื่อส่งเสริมการสร้างสรรค์และการแข่งขันในระดับนานาชาติ, ร่าง พ.ร.บ.กลุ่มชาติพันธุ์ ยกระดับคุณภาพชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ผ่านการคุ้มครองวิถีชีวิตและเศรษฐกิจเชิงวัฒนธรรม
ความร่วมมือระหว่างประเทศและอาเซียน กระทรวงวัฒนธรรมเดินหน้าสร้างความร่วมมือด้านวัฒนธรรมกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเน้น: การประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านวัฒนธรรมและศิลปะ ครั้งที่ 11 ส่งเสริมความร่วมมือกับประเทศสมาชิกอาเซียน+6 เพื่อยกระดับ Soft Power ไทย
รมว.สุดาวรรณฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ความสำเร็จของกระทรวงวัฒนธรรมใน 90 วันนี้เป็นผลจากความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน และเครือข่ายศิลปวัฒนธรรมทั่วประเทศ พร้อมมุ่งมั่นสืบสานและต่อยอดศิลปวัฒนธรรมไทยเพื่อความยั่งยืน โดยมีเป้าหมายสร้างอาชีพ รายได้ และภาพลักษณ์ที่ดีแก่ประเทศในเวทีโลก
กระทรวงวัฒนธรรม
อ่านเพิ่มเติม >>> มรดกวัฒนธรรมไทยที่ขึ้นทะเบียนกับ UNESCO <<<
อ่านเพิ่มเติม >>> Soft Power ไทย <<<
โย ประเด็นรัฐ
