ดร. พงศกร อรรณนพพร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ ได้รับมอบหมายจากนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้เป็นผู้แทนเปิดงานสัมมนาและปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “การค้าไทย-จีน บนหลักมิตรภาพ มาตรฐาน เท่าเทียม เป็นธรรม” ภายใต้งานสัมมนา “THAILAND & CHINA 2025: ไทย-จีน มิติสัมพันธ์อนาคตร่วมกัน” ซึ่งเป็นเวทีสำคัญในการถ่ายทอดองค์ความรู้และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนระหว่างไทยและจีน
ในโอกาสนี้ ดร. พงศกร ได้กล่าวถึงความสำคัญของความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างไทยและจีนที่มีความยาวนาน และมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยยืนยันว่า จีนเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งของไทย ติดต่อกันเป็นระยะเวลากว่า 12 ปี ตั้งแต่ปี 2556 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งสะท้อนถึงความสำคัญของการค้าระหว่างสองประเทศที่มีมูลค่าสูงและขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
ในปี 2567 การค้าไทย-จีน มีมูลค่าถึง 94,919.4 ล้านเหรียญสหรัฐ (3.39 ล้านล้านบาท) ขยายตัว 8.2% ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีในการขยายความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจ การค้าการลงทุนที่มีแนวโน้มเติบโตสูง โดยเฉพาะในด้านสินค้าเกษตร เช่น ทุเรียน มังคุด และมันสำปะหลัง ซึ่งไทยได้ส่งออกไปยังประเทศจีน และในทางกลับกันไทยก็ได้สั่งสินค้าจากจีนเข้ามาเป็นจำนวนมาก
จีนยังเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการลงทุนในไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2567 จีนได้ขอรับการส่งเสริมการลงทุนจำนวน 554 โครงการ เพิ่มขึ้นถึง 116.4% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา มูลค่าเงินลงทุนรวม 114,067 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 18.2% โดยมีไทยเป็นตลาดศักยภาพที่เหมาะสมในเชิงยุทธศาสตร์ ที่ผลักดันให้จีนหันมาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น
อีกหนึ่งด้านที่มีการเติบโตคือการท่องเที่ยว โดย นักท่องเที่ยวจีน เป็นอันดับหนึ่งของไทยในปี 2567 โดยมีสัดส่วนประมาณ 20% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด การเปิดมาตรการวีซ่าฟรีระหว่างทั้งสองประเทศทำให้การเดินทางระหว่างไทยและจีนสะดวกและคล่องตัวยิ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในด้านการค้าการลงทุน
กระทรวงพาณิชย์ได้กล่าวถึงความพร้อมในการเป็น สะพานเชื่อมโยงการค้าการลงทุน ระหว่างผู้ประกอบการและนักธุรกิจไทย-จีน โดยมีการเปิดสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศในจีนจำนวน 7 แห่ง เพื่อเป็นช่องทางแลกเปลี่ยนข้อมูลเศรษฐกิจ การค้าการลงทุน และให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการทั้งสองประเทศในการขยายธุรกิจร่วมกัน
“ความสัมพันธ์ไทย-จีนมุ่งเน้นที่หลักการของมิตรภาพ มาตรฐานที่เป็นธรรมและเท่าเทียม ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญที่จะเสริมสร้างการค้าการลงทุนที่ยั่งยืนและสร้างประโยชน์ร่วมกัน” ดร. พงศกร กล่าว
การสัมมนาครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างไทยและจีนในอนาคต โดยทั้งสองประเทศจะยังคงร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดในการสร้างความเติบโตทางเศรษฐกิจและยกระดับความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนตลอดไป
โย ประเด็นรัฐ
